ทวารดี
โบราณสถาน
พระปฐมเจดีย์
เจดีย์จุลประโทน
พระประโทณเจดีย์
วัดพระงาม
วัดพระเมรุ
วัดธรรมศาลา
โบราณสถานเนินพระดอนยายหอม
โบราณวัตถุ
ธรรมจักร
จารึกวัดพระงาม
ทวารบาลดินเผา(อสูรวัดพระงาม)
ปูนปั้นชาดกจุลประโทน
พระพุทธรูปร่วมสมัย
พระศิลาขาวและพระศิลาเขียว
พระเครื่อง
ศาสนาและประเพณี
แห่นางแมว
อิ้นก๊อนฟ้อนแก๊น
พิธีเสนเรือน
ความศรัทธาหลวงพ่อเงิน
ตักบาตรเทโว
เทศกาลกินเจ
ภาษาและวรรณกรรม
ตำนานพระยากง พระยาพาน
ตำนานโทณ พราหมณ์
ภาษา พื้นถิ่น
ความเชื่อท้องถิ่น
ไหว้ศาล แม่ย่าบางยาง
ตาเถร ยายชี
พิธีทำบุญสามแพร่ง และตุ๊ก
การละเล่น
เศรษฐกิจชุมชน
ข้าวหลาม
หมูแปรรูป
ปลาร้าข้าวคั่ว
กระยาสารท
บ่อกุ้ง
เลี้ยงหมู
ปลูกผัก
ถนนคนเดินนครปฐม
กิจกรรม
เกมจับคู่ภาพ
เกมจับผิดภาพ
Gallery art
ผู้จัดทำ
ทวารดี
โบราณสถาน
พระปฐมเจดีย์
เจดีย์จุลประโทน
พระประโทณเจดีย์
วัดพระงาม
วัดพระเมรุ
วัดธรรมศาลา
โบราณสถานเนินพระดอนยายหอม
โบราณวัตถุ
ธรรมจักร
จารึกวัดพระงาม
ทวารบาลดินเผา(อสูรวัดพระงาม)
ปูนปั้นชาดกจุลประโทน
พระพุทธรูปร่วมสมัย
พระศิลาขาวและพระศิลาเขียว
พระเครื่อง
ศาสนาและประเพณี
แห่นางแมว
อิ้นก๊อนฟ้อนแก๊น
พิธีเสนเรือน
ความศรัทธาหลวงพ่อเงิน
ตักบาตรเทโว
เทศกาลกินเจ
ภาษาและวรรณกรรม
ตำนานพระยากง พระยาพาน
ตำนานโทณ พราหมณ์
ภาษา พื้นถิ่น
ความเชื่อท้องถิ่น
ไหว้ศาล แม่ย่าบางยาง
ตาเถร ยายชี
พิธีทำบุญสามแพร่ง และตุ๊ก
การละเล่น
เศรษฐกิจชุมชน
ข้าวหลาม
หมูแปรรูป
ปลาร้าข้าวคั่ว
กระยาสารท
บ่อกุ้ง
เลี้ยงหมู
ปลูกผัก
ถนนคนเดินนครปฐม
กิจกรรม
เกมจับคู่ภาพ
เกมจับผิดภาพ
Gallery art
ผู้จัดทำ
โบราณวัตถุ
ธรรมจักร
ธรรมจักร
ธรรมจักรเป็นการสื่อความหมายถึงกงล้อด้วยลักษณะที่เหมือนล้อรถเป็นส่วนประกอบหนึ่งของราชรถหรือเกวียน ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าการหมุนไปข้างหน้าดังนั้นธรรมจักรก็เหมือน พระธรรมที่หมุนไปข้างหน้า เดินหน้าเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งนี้ธรรมจักรซึ่งมีลักษณะเป็นวงกลมนั้น ยังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของดวงอาทิตย์อีกด้วยเนื่องจากลักษณะของธรรมจักรมีลักษณะเป็นวงกลม มีรัศมีแฉกเป็นเส้นไปทุกทิศทุกทาง ซึ่งหมายถึงการเปล่งรัศมี การแสดงอำนาจไปทุกทิศทุกทาง ดังนั้นธรรมจักรบางชิ้นจึงมีการสลักรูปพระสุริยะไว้ด้วยเช่นกัน
ธรรมจักร เป็นงานศิลปะของไทยที่มีความสำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง จนอาจพูดได้ว่าธรรมจักรก็เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยทวารวดี ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจถือได้ว่าธรรมจักรเป็นประจักษ์พยานอันแท้จริงของการแผ่ขยายทางวัฒนธรรมและการเมืองของอาณาจักรทวารวดี เนื่องจากพบปรากฏอยู่ในช่วงเวลาและบริเวณที่ค่อนข้างจำกัด
ธรรมจักรเป็นงานศิลปกรรมที่พบกระจายอยู่หลายแห่งตามเมืองโบราณหรือศาสนสถานสมัยทวารวดี โดยวัสดุที่ใช้สลักธรรมจักรเป็นหินตระกูลหินปูนหรือหินทรายและศิลาแดง ซึ่งศิลาแดงจะพบได้น้อยมีขนาดใหญ่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 เมตร และขนาดเล็กสุดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 45 เซนติเมตร
ในบรรดาแหล่งโบราณสถานและเมืองโบราณที่พบทั้งหมดนั้น เมื่อพิจารณาดูแล้วจะพบธรรมจักรศิลาจากเมืองโบราณนครปฐมเป็นจำนวนมากที่สุด คือ มีวงธรรมจักรที่สมบูรณ์กว่า 20 วง และชิ้นส่วนวงธรรมจักรที่แตกหักอีกจำนวนหนึ่ง ธรรมจักรเหล่านี้มีลวดลายที่ค่อนข้างประณีตสวยงามกว่าแหล่งอื่น ๆ จึงถือเป็นวัตถุโบราณชิ้นเด่น และด้วยความที่มีคุณค่าทางศิลปะสูง กรมศิลปากรจึงมีการประกาศควบคุมการทำเทียมโบราณวัตถุ เมื่อ พ.ศ. 2541 ซึ่งมีโบราณวัตถุที่ควบคุม 9 รายการ จึงประกาศควบคุมการทำเทียมธรรมจักรจากวัดเสน่หา ซึ่งปัจจุบันได้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 โบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมด้วย
จารึกพระธรรมบนธรรมจักร
ธรรมจักรสมัยทวารวดีที่พบในไทยนั้น บางวงมีการจารึกหลักธรรมเอาไว้ด้วย โดยส่วนมากเป็นอักษรปัลลวะ (อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12) ภาษาบาลี เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการนำมาจากพระไตรปิฎกเกี่ยวกับการรู้แจ้งในอริยสัจ 4 และปฏิจจสมุปบาท การพึ่งพาของสิ่งทั้งหลายที่อาศัยกันและกัน รวมถึงคาถา "เยธมมา" อันเป็นหัวใจของหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วย
ธรรมจักรที่มีอักษรจารึกหลักสำคัญที่พบในจังหวัดนครปฐม ได้แก่ ธรรมจักรที่ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งตามประวัติกล่าวว่า เป็นสมบัติส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ซึ่งมีอักษรจารึกที่คัดมาจาก "ธัมมจักกับปวัตตนสูตร" โดยจารึกที่บริเวณดุมล้อด้านใน แปลได้ว่า
"..จักรคือพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงแสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ทรงแสดงไว้ 4 อย่าง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทั้ง 4 อย่างหมุนวนครบ 3 รอบเป็นสัจจญาณ กิจจญาณ กตญาณ มีอาการ 12 อย่าง(ทวาทสาการัง)... "
ส่วนดุมล้อด้านนอกแปลได้ว่า "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหมุนวงล้อของธรรมจักรหมุนเวียน 3 รอบ มีอาการ 12..." นอกจากนี้ จารึกข้อความที่วงล้อ แปลได้ว่า "...สัจจญาณกิจจญาณ และกตญาณ หมายถึง หยั่งรู้เกี่ยวกับความจริงเกี่ยวกับกิจที่ต้องทำและเกี่ยวกับกิจที่ได้ทำแล้ว... " ส่วนข้อความบนซี่กงล้อ ( 15 ซี่) กล่าวถึงความรู้แจ้งในอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
จารึกดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการใช้สัญลักษณ์ของธรรมจักรแทนความหมายของการหมุนวงล้อแห่งธรรมในการแสดงปฐมเทศนาของพระพุทธองค์ได้เป็นอย่างดี
ความหมายและลวดลายประดับ
วงธรรมจักรเป็นงานสลักด้วยหินตระกูลหินปูนหรือหินทรายมีลักษณะเป็นวงกลมตรงกลางสลักเป็นดุมคล้ายล้อเกวียน โดยมีซี่กงล้อ (กำ) จำนวนไม่เท่ากัน ซึ่งจะมี 8, 12, 16 จนถึง 32 ซี่
ซี่กงล้อธรรมจักรที่ต่อกับขอบด้านนอกนิยมทำลวดลายคล้ายหัวเสาแบบ
ไอโอนิค
ธรรมจักรบางวงสลับเจาะเป็นช่องว่างระหว่างซี่ล้อซึ่งจะพบได้น้อยแต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบทึบคือเจาะไม่ทะลุ ขอบนอกสุดของวงธรรมจักรส่วนใหญ่สลักเป็นขอบวงล้อที่มีลวดลายสลับอย่างสวยงามโดยมีลักษณะที่ต่างกันไป
ส่วนใหญ่เป็นลายดอกกลมสลับลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ลายก้านขดสลับรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ลายพรรณพฤกษาแบบกนกผักกูดรูปแบบต่างๆ รวมถึงลายกลีบบัวเรียงขนาดกันที่เรียกว่า ลายบัวรวนที่ขอบวงนอก ลวดลายสลักตกแต่งในส่วนสำคัญอีกตำแหน่งหนึ่งของวงธรรมจักรสมัย
ทวารวดี
ก็คือที่ฐานของธรรมจักรตกแต่งด้วยภาพบุคคลและสัตว์หรือลายมงคลหลายรูปแบบ เช่น
• รูปพระสุริยเทพสลักเป็นภาพบุคคลเพศชายสวมศิราภรณ์ประทับนั่งพระหัตถ์ทั้ง 2 ข้างถือดอกบัวที่ชูช่อขึ้น ซึ่งเป็นรูปลักษณะเฉพาะของสุริยเทพภาพเช่นนี้หมายถึงการตื่นรู้จากกิเลสตัณหาทั้งปวงคือการตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐตลอดจนแสงสว่างแห่งธรรมะนั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด
• รูปคชลักษมี สลักเป็นรูปเทพสตรี ประทับนั่งอยู่ระหว่างช้าง 2 เชือกที่ทำท่าชูงวงถือหม้อน้ำรดใส่ร่างของพระนางลักษมี ภาพเช่นนี้แสดงถึงการกำเนิดอันบริสุทธิ์และความมีโชคลาภภาพลักษณะเช่นนี้ในทางพุทธศาสนายุคแรกหมายถึงการประสูติของพระพุทธองค์
• รูปหน้ากาลหรือเกียรติมุข สื่อถึงการป้องกัน สิ่งชั่วร้ายรวมทั้งอาจหมายถึงความไม่ยั่งยืน
• รูปกลีบบัวแสดงถึงการกำเนิดอันบริสุทธิ์หรือปัญญาอันเกิดจากการตรัสรู้
ชิ้นส่วนวงธรรมจักรที่ เเตกชำรุดพบที่จังหวัดนครปฐมปัจจุบันเก็บไว้ในห้องคลัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
ชิ้นส่วนภาพสลักบริเวณฐานวงธรรมจักร พบในจังหวัดนครปฐม ปัจจุบันเก็บไว้ในห้องคลัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
ธรรมจักร และกวางหมอบ
สถานที่พบ/ประวัติ : พบที่วัดเสน่หา(ร้าง) อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐมเป็นสมบัติส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงค์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลประทานยืมให้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 105 เชนติเมตร
รายละเอียดอื่น : ธรรมจักรวงนี้ สลักเป็นแบบมีซี่โปร่ง 15 ซี่ สิ่งสำคัญคือ มีจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาบาลี (อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 จารึกอยู่ที่ดุมล้อ รวมถึงที่ซี่กำแต่ละซี่ มีเนื้อหากล่าวถึงหลักธรรมคัดมาจากธัมมจักกับปวัตตนะสุตตะ)
นัยปิฎก มหาวรรค กล่าวถึงการหมุนวงล้อแห่งธรรม
ธรรมจักร และกวางหมอบ
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 221 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นธรรมจักรที่มีขนาดวงใหญ่ที่สุดที่พบในไทย ลักษณะของซี่กงล้อสลัก แบบช่องทึบ ไม่เจาะทะลุ สภาพที่พบค่อนข้างชำรุดไม่ครบวง แต่ทางกรมศิลปากรได้ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเต็มวง ซึ่งสามารถศึกษาได้จากเนื้อหินเดิมที่มีสีต่างออกไปจากปูนที่ซ่อม ขึ้นมาใหม่ ส่วนกวางหมอบก็อยู่ในลักษณะหมอบราบ หันหัวเอี้ยวมองไปทางด้านหลัง
ธรรมจักรสลักลายคชลักษมี
สถานที่พบ/ประวัติ: พบที่วัดพระงาม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ (เลขทะเบียน 624/2519)
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 73 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : สันนิษฐานว่าเป็นธรรมจักรที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เป็นธรรมจักรที่ไม่ครบสมบูรณ์ สลักซี่กำแบบทึบ มีลวดลายทั้ง 2 ด้าน ที่ส่วนด้านล่างสลักเป็นรูปเทวสตรีอยู่ระหว่างช้าง 2 เชือก ที่ทำรดน้ำอภิเษก ภาพเช่นนี้เรียกกันว่า "คชลักษมี หรือ อภิเษกศรี" อันเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดอันบริสุทธิ์ การเริ่มต้นอันเป็นมงคล ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการตีความว่าอาจหมายถึงปางประสูติของพระพุทธองค์อีกด้วยเป็นธรรมจักรในพุทธศตวรรษที่ 12-16 สมัยทวารวดี
ธรรมจักรพร้อมเสา และกวางหมอบ
สถานที่พบ/ประวัติ: ตามประวัติว่า ขุดพบเมื่อราว พ.ศ. 2496 ที่โบราณสถานเนินพระ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยค้นพบทั้งวงธรรมจักร เสา และกวางหมอบ แต่ไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่าพบในลักษณะเช่นใด
ปัจจุบันอยู่ที่ : ธรรมจักรและเสาอยู่ในศาลาภายในวัดดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ส่วนกวางหมอบ ปัจจุบันอยู่ที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คลองห้า (รายละเอียดของเสา และกวางหมอบในลำดับถัดไป)
รายละเอียดอื่น : ธรรมจักรวงนี้ พบอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ พบเพียงชิ้นส่วนไม่มากนัก แต่ได้มีการซ่อมแซมด้วยปูนจนสมบูรณ์
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : ด้านหน้าภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ของวัดพระปฐมเจดีย์
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 101 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นธรรมจักรวงกลม มีซี่กงล้อ 16 ซี่ ระหว่างซี่กงสลักแบบทึบ ตรงดุมกลางเจาะเป็นช่องกลม ด้านล่างที่ฐานสลักเป็นลายกระหนกวงโค้งและกระหนกผักกูด
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : ด้านหน้าภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ของวัดพระปฐมเจดีย์
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 100 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นธรรมจักรวงกลม มีซี่กำ 21 ซี่ ระหว่างสลักทึบ ด้านล่างเป็นลายกลีบบัวหงาย
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 627/2519)
ขนาด : สูง 70 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 66 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น :ธรรมจักรวงนี้เป็นธรรมจักรพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 สมัยทวารวดี สลักแบบมีซี่ทึบ ไม่ได้เจาะช่องโปร่ง มีจำนวนซี่ราว 17 ซี่ (บางซี่ถูกฐานรูปบุคคลทับอยู่) ที่ฐานล่างมีรูปบุคคลนั่ง มือทั้งสองถือดอกบัวยกชูขึ้นระดับศีรษะ สันนิษฐานว่า อาจหมายถึงพระสุริยะ (ที่รูปปรากฎจะทำเป็นรูปบุคคลถือดอกบัวทั้งสองพระหัตถ์)
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 638/2519)
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 103 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น :วงธรรมจักรศิลา มีซี่กงล้อ 32 ซี่ สลักแบบซี่ทึบ ด้านล่างทำเป็นแกนยื่นเจาะของสี่เหลี่ยม แต่เดิมอาจใช้ประกอบกับประติมากรรม บางอย่าง
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 11/24)
ขนาด : สูง 123.7 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 97 เชนติเมตร
รายละเอียดอื่น :ธรรมจักรศิลา มีซี่ 22 ซี่ สลักแบบซี่ทึบ ที่ฐานล่างสลักเป็นลายพรรณพฤกษาในกรอบสามเหลี่ยมโค้งด้านบน เป็นธรรมจักรพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 สมัยทวารวดี
ธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 633/2519)
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 96 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น :ธรรมจักรศิลา สลักซี่วงล้อ 16 ซี่ ด้านล่างสลักเป็นทรงโค้งคล้ายกลีบบัวหงายเป็นแบบกลีบบัวยาวหลายกลีบ ในกรอบทรงโค้ง
ชิ้นส่วนธรรมจักรศิลาแลง (ชำรุด)
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 776/2519)
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลางราว 42 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นชิ้นส่วนวงธรรมจักร สลักจากศิลาแลง ซึ่งพบน้อย ลักษณะคล้ายเป็นโกลนที่ไม่มีลายสลักตกแต่งใด ๆ
เสาธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบที่โบราณสถานเนินพระ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : วัดดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
รายละเอียดอื่น : เป็นเสาทรงแปดเหลี่ยม ส่วนปลายบนสลักเป็นแท่นสี่เหลี่ยมสลักลวดลายพรรณพฤกษา ด้านบนสุดทำเป็นง่ามหิน 2 ซีก (คงเพื่อใช้ต่อกับวงธรรมจักรด้านบน)
เสาธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
(เลขทะเบียน 625/2519)
ขนาด : สูง 207 เซนติเมตร กว้าง 18.5 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นเสาทรงแปดเหลี่ยม ส่วนปลายบนสลักเป็นแท่นสี่เหลี่ยมสลักลาย เพื่อต่อเชื่อมกับฐานศิลาที่จะรองรับธรรมจักร
กวางหมอบ
สถานที่พบ/ประวัติ: ตามประวัติว่าพบที่ดอนยายหอม (เข้าใจว่าเป็นที่โบราณสถานเนินพระ) จังหวัดนครปฐม พระกล้ากลางสมรข้าหลวงส่งมาให้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2479
ปัจจุบันอยู่ที่ : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ขนาด : สูง 22 เชนติเมตร ยาว 29.5 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : ประติมากรรมกวางหิน อยู่ในท่าหมอบหันหัวย้อนกลับไปทางด้านหลัง
กวางหมอบ
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 777/2519)
กว้าง 10.5 เซนติเมตร ยาว 16.5 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นประติมากรรมรูปกวางอยู่ในท่าหมอบ อยู่บนฐานทรงสี่เหลี่ยม รูปกวางทำท่าหันหัวเหลียวกลับมองไปด้านหลัง
ฐานหินรองรับธรรมจักร
สลักภาพวิมานพระสุริยะ
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ขนาด : สูง 170 เชนติเมตร
รายละเอียดอื่น : ด้านล่างเป็นชิ้นส่วนเสา (สตัมภะ) ที่มีลายเฟื่องอุบะห้อยประดับอย่างงดงามส่วนตัวฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยม สลักลายเป็นรูปชั้นวิมานจำลอง โดยทำเป็นรูปกุฑุ (ซุ้มวงโค้งเกือกม้า) ภายในมีรูปใบหน้าบุคคลอยู่ภายใน ฐานศิลาชิ้นนี้มีนักวิชาการตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจหมายถึงวิมานของพระสุริยะ หรือบางท่านสันนิษฐานว่าเป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ฐานรองรับธรรมจักร สลักเรื่องการแสดงปฐมเทศนา
สถานที่พบ/ประวัติ: พบที่วัดไทร อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 635/2519)
ขนาด : สูง 61 เซนติเมตร ยาว 111 เมตร
รายละเอียดอื่น :ประติมากรรมชิ้นนี้มีสภาพไม่สมบูรณ์ เหลือเพียงเสี้ยวเดียว สลักเป็นภาพพระพุทธองค์ประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ขวาแสดงปางแสดงธรรม ด้านข้างมีรูปพราหมณ์หรือนักบวชอยู่ด้านหนึ่ง (อาจหมายถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง 5) ส่วนอีกด้านเป็นรูปภิกษุ (ศีรษะโล้น) 5 องค์ นั่ง
พนมมือ
จึงมีการสันนิษฐานกันว่า อาจเป็นเหตุการณ์ครั้งพระพุทธองค์แสดงปฐมเทศนา โดยแสดงภาพปัญจวัคคีย์ก่อนบรรลุธรรมอยู่ด้านหนึ่ง และรูปพระภิกษุทั้งห้าอาจได้แก่ กลุ่มปัญจวัคคีย์ภายหลังจากการบรรลุโพธิธรรมแล้ว
ฐานรองรับธรรมจักร
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 916/2519)
กว้าง 57 เชนติเมตร ยาว 69 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นแท่นหินสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านนอกสลักเป็นลายพรรณพฤกษาแบบกนกผักกูดด้านบนที่มุมมีการเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมที่มุมทั้งสี่ ซึ่งอาจใช้เป็นที่ตั้งกวางหมอบ
ฐานรองรับธรรมจักร สลักรูปนรสิงห์
สถานที่พบ/ประวัติ: พบในเขตจังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอยู่ที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
(เลขทะเบียน 633/2519)
กว้าง 43 เซนติเมตร ยาว 67 เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น : เป็นแท่งหินทรงสี่เหลี่ยม ด้านบนเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม ด้านนอกสลักลายรูปนรสิงห์นั่งชันเข่า อยู่ท่ามกลางลายกนกผักกูดที่มุมทั้งสี่
บรรณานุกรม
พนมกร นวเสลา. ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร.สัมภาษณ์. 14 ตุลาคม 2566
ฌอง บวสเซอลิเยร์ (แปลโดยบุตรี สุวรรณะบุณย์), “สกุลช่างศิลปะทวารวดี,” ใน ศูนย์ข้อมูลเพื่อการค้นคว้าวิจัยฝรั่งเศส-ไทยศึกษา (CEDREFT), นครปฐมศึกษาในฝรั่งเศส : รวมบทความแปล (นครปฐม:รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977),2552),หน้า 155 กรมศิลปากร. (2563). ปกิณกศิลปวัฒนธรรม. เล่ม26. นครปฐม.