คุณชัชวาล ผึ่งเดช (ปราชญ์ชาวบ้าน) กล่าวว่า ในการเสนเฮือนเจ้าภาพจะต้องไปหาหมอเสนซึ่งเป็นผู้นำในการทำพิธีเสนเฮือนให้จัดหาวันที่มีฤกษ์มงคล เช่น มื้อฮวงหรือวันฮวง มื้อฮายหรือวันฮาย มื้อเปิกหรือวันเปิกเป็นวันดี เป็นต้น โดยส่วนมากชาวไทดำจะจัดในวันเปิกเพราะเมื่อจัดในวันเปิกจะเสียหมูเสียไก่ (เลี้ยงด้วยหมูและไก่) วันฮายจะเสียหมูเสียไก่ (เลี้ยงด้วยหมูและไก่) ส่วนวันฮวงจะเสียควาย (เลี้ยงด้วยควาย) คำว่า “เสีย” หมายถึงการเซ่นไหว้ ในการเลือกวันดีนี้ส่วนใหญ่แล้วตระกูลชาวบ้านทั่วไปจะเลือกจัดในวันเปิกเพราะเสียสัตว์เล็กคือหมูและไก่เป็นเพราะใช้กำลังทรัพย์ในค่าใช้จ่ายน้อย ส่วนตระกูลใหญ่นั้นมักจะจัดวันฮวง เพราะเป็นตระกูลใหญ่ที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายจึงต้องเซ่นด้วยสัตว์ใหญ่
หลังจากได้วันแล้วเจ้าภาพจะตั้งเตรียมงานโดยจัดหาเครื่องเซ่นไหว้คือ หมู 1 ตัว ไก่ 2 ตัว ซึ่งทุกบ้านจะมีการเลี้ยงหมูกันเพื่อใช้เซ่นผีเรือน ชาวบ้านมักจะอธิษฐานว่า ถ้าหากตนทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองและเลี้ยงหมูอ้วนจะทำพิธีเสนให้ หมูที่เลี้ยงไว้ทำพิธีนี้จะต้องแข็งแรง มีลักษณะดีและเป็นตัวผู้ที่ขาเต็มกำมือซึ่งก็หมายถึงทำอะไรก็จะได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนขาหมู นอกจากนี้เจ้าภาพจะต้องทำเหล้าหมักหรือเหล้าแกลบเพื่อใช้ในพิธีแต่ปัจจุบันใช้เหล้าขาว 40 ดีกรีแทน นอกจากนี้เจ้าภาพจะต้องเตรียมหมากพลูและเครื่องบูชาครูให้หมอเสนนำไปบูชาครูของหมอเสนเรียกว่า “คายหมอ” เพื่อให้หมอเสนรับรู้เสียก่อนในช่วงใกล้วันพิธีเตรียมละข้าวของเครื่องให้ต่างๆที่จำเป็นในงาน
ก่อนวันงานหนึ่งวันจะมีการต้มข้าวต้มหมูและเจ้าภาพจะเชิญแขกในละแวกบ้านให้มาร่วมงาน (ในอดีตหากมีงานคนในหมู่บ้านจะมาช่วยงานโดยไม่ต้องเชิญ แต่ในปัจจุบันชาวบ้านมีความเกรงใจไม่กล้ามาร่วมงาน เจ้าภาพจึงต้องไปบอกกล่าวแก่เพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง) ส่วนผู้ร่วมพิธีได้แก่บรรดาลูกหลานและญาติ ๆ รวมทั้งแขกเชิญ ญาติที่มาร่วมงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ญาติสืบสายโลหิตจะแต่งกายแบบธรรมดา และญาติจากการแต่งงานได้แก่ฝ่ายเขยหรือสะใภ้ จะแต่งกายพิเศษด้วยชุด “เสื้อฮี” หรือเสื้อยาวเพื่อเป็น การเคารพผีเรือนและเป็นที่สังเกตให้ผู้มาร่วมงานรู้ว่าเป็นเขยหรือสะใภ้ และเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ได้รับเชิญจากเจ้าภาพ
ในเวลาประมาณ 3 นาฬิกาของวันงาน เจ้าภาพจะนำหมูที่ซื้อมาหรือที่เลี้ยงไว้ในพิธีนี้มาฆ่า ในการฆ่าหมูนี้จะต้องนำหมูไปฆ่าที่บันไดทางขึ้นบ้านเพื่อให้ผีเรือนได้เห็นและรับรู้ เมื่อฆ่าเสร็จจึงนำหมูออกมาข้างนอกเพื่อทำการถอนขนและชำแหละเอาเครื่องในออก จากนั้นใช้ตอกมัดกับขาทั้งสี่ เสร็จแล้วจึงใช้ไม้ไผ่ทำเป็นไม้คานหาม (ชาวบ้านเรียกว่า ไม้สบู่ คือไม้ไผ่ที่ใช้เป็นคานหาม) นำหมูทั้งตัวขึ้นไปชั้นบนของบ้านที่หน้ากะล้อห้อง ทำความเคารพพร้อมกับกล่าวกับผีเรือนเพื่อให้ผีเรือนรับรู้และเห็นการชำแหละเนื้อหมู ในนี้จะชำแหละเป็นส่วนๆ ให้พอเหมาะที่จะประกอบเป็นตัวหมูทั้งตัวเพื่อใส่กะละมังไว้โดยมิให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของหมูขาดหายไป หากชิ้นเนื้อหมูหายไปก็จะไม่สามารถทำพิธีเสนเฮือนไม่ได้
ขณะที่การประกอบอาหารเพื่อทำพิธีดำเนินไป เพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ได้รับเชิญจากเจ้าภาพและญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมงานผู้ที่มาก็จะนำเหล้าหรือน้ำอัดลมมาช่วยงานเจ้าภาพ ระหว่างที่รอแขกที่มาก็จะช่วยกันเตรียมข้าวของเครื่องใช้ไว้ในกระด้งให้ผีเรือน ประกอบด้วย เสื้อฮี 1 ตัว, กำไลแขน 1 อัน, สร้อยคอ 1 เส้น,พัด 1 ด้าม, กระเทียมหัวหอม 1 พวง, ผ้าเปียวเบอะ 1 ผืน, หัวหมาก 1 อัน, ผ้าขาวม้า 1 ผืน, ผ้าโสร่ง 1 ผืน, ผ้าซิ่น 1 ผืน, ผ้าขาวรอง 1 ผืน, ฝ้ายดำ 1 หัว, ฝ้ายขาว 1 หัว, เสื้อ 1 ตัว, กางเกง 1 ตัว, หวี 1 เล่ม, แหวน 1 วง, เงิน (ตามแต่ละเจ้าภาพจะใส่), เส้นผมคนในครัวเรือน และกระจก 1 บาน นอกจากสิ่งของที่เตรียมใส่กระด้งแล้ว ยังมีเสื้อผ้าอีกหนึ่งชุดที่ห่อด้วยผ้าขาวม้า และถ้วยใส่บุหรี่ คำหมากคำพลูอีกหนึ่งถ้วย